Noun
PART 1 คำนามเอกพจน์ (Singular Noun) และคำนามพหูพจน์ (Plural Noun)
คำนามเอกพจน์ คือ คำนามที่แสดงถึงสิ่งของเพียงชิ้นเดียว คนๆเดียว หรือสัตว์ตัวเดียว เช่น กระเป๋า 1 ใบ (a bag) ผู้ชาย 1 คน (a man) พูดง่ายๆเลยก็คือ อะไรก็ตามที่มีเพียงหนึ่งหน่วย เราเรียกว่า คำนามเอกพจน์
คำนามพหูพจน์ คือ คำนามที่แสดงถึงสิ่งของที่มีมากกว่า 1 ชิ้น เช่น กระเป๋า 2 ใบ (2 bags) ผู้ชาย 4 คน (4 men) เป็นต้น
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ในภาษาอังกฤษเวลาที่เราต้องการเปลี่ยน “คำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์” เพื่อบอกปริมาณสิ่งของที่เพิ่มขึ้นนั้นสามารถทำได้หลายวิธี มาดูกันว่ามีวิธีการใดบ้าง
วิธีการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์
มีทั้งหมด 7 วิธีด้วยกัน
1. เติม –s ท้ายคำนามได้เลย
ได้ยินกันบ่อยมากกก เรื่องของการ เติม –s เวลาที่เราต้องการพูดถึงคำนามที่มีมากกว่าหนึ่ง ส่วนมากเราสามารถเติม –s ไปหลังคำนามได้เลย
เช่น ห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง จากเดิมที่ใช้ Mall ก็ให้เติม –s ลงไป เป็น Malls แทน
ตัวอย่าง I heard that Central will renovate three of their shopping malls this year.
ฉันได้ยินมาว่าเซนทรัลจะทำการปรับปรุงห้างสรรพสินค้า 3 แห่งในปีนี้ล่ะ
2. หากคำนามลงท้ายด้วย ch, s, ss, sh, x, และ z ต้องเติม -es ท้ายคำนั้นๆ
Singular | Plural | คำแปล |
bush (บุช) | bushes (บุช-เชส) | พุ่มไม้ |
bus (บัส) | buses (บัส-เซส) | รถเมล์ |
dress (เดรส) | dresses (เดรส-เซส) | ชุดกระโปรง |
church (เชิร์ช) | churches (เชอร์-เชส) | โบสถ์ |

3. คำนามที่ลงท้ายด้วย O แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ เติม –s หรือ เติม –es
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า คำไหนเติม –s คำไหนเติม –es ? คำตอบคือ ต้องจำและใช้บ่อยๆค่ะ
– ส่วนมากแล้วคำนามที่ลงท้ายด้วย –o มักจะเติม –s ได้เลย
เช่น Studio (สตูดิโอ) เปลี่ยนเป็น studios (สตูดิโอส)
Zoo (ซู) เปลี่ยนเป็น zoos (ซูส)
– บางคำที่ลงท้ายด้วย –o จะต้องเติม –es เช่น
Singular | Plural | คำแปล |
buffalo (บัฟ-ฟา-โลว์) | buffaloes (บัฟ-ฟา-โลว์ส) | ควาย |
domino (ดอ-มิ-โนว์) | dominoes (ดอ-มิ-โนว์ส) | โดมิโน่ |
hero (ฮี-โรว์) | heroes (ฮี-โรว์ส) | ฮีโร่ |
echo (เอ็ค-โคว์) | echoes (เอ็ค-โคว์ส) | เสียงก้อง |
mosquito (มอส-กี-โทว์) | mosquitoes (มอส-กี-โทว์ส) | ยุง |
potato (เพอะ-เท-โทว์) | potatoes (เพอะ-เท-โทว์ส) | มันฝรั่ง |
tomato (โท-เม-โทว์) | tomatoes (โท-เม-โทว์ส) | มะเขือเทศ |
** รู้หรือไม่ บางคำที่ลงท้ายด้วย –o สามารถเติมได้ทั้ง –s และ –es เช่น
Singular | Plural | คำแปล |
cargo (คาร์-โกว์) | cargos หรือ cargoes (คาร์-โกว์ส) | คลังสินค้า |
flamingo (ฟละ-มิง-โกว์) | flamingos หรือ flamingoes (ฟละ-มิง-โกว์ส) | นกฟลามิงโก้ |
halo (เฮย์-โลว์) | halos หรือ haloes (เฮย์-โลว์ส) | รัศมี |
mango (แมง-โกว์) | mangos หรือ mangoes (แมง-โกว์ส) | มะม่วง |
motto (ม็อท-โทว์) | mottos หรือ mottoes (ม็อท-โทว์ส) | คติ |
tornado (ทอร์-เน-โดว์) | tornados หรือ tornadoes (ทอร์-เน-โดว์ส) | ทอร์นาโด |
volcano (โฟล-เค-โนว์) | volcanos หรือ volcanoes (โฟล-เค-โนว์ส) | ภูเขาไฟ |
4. คำนามที่ลงท้ายด้วย –y แบ่งเป็น 2 ประเภท คือเติม-s หรือเติม –es
แล้วจะรู้ได้ไงว่าเติม –s หรือ –es มีวิธีแยกดังต่อไปนี้
- ถ้าหน้า –y เป็นสระ –a, -e, -i, -o, -u คำนามตัวนั้นจะต้องเติม –s ค่ะ เช่น
Singular Plural คำแปล monkey (มัง-คิ) monkeys (มัง-คิส์) ลิง birthday (เบิร์ธ-เดย์) birthdays (เบิร์ธ-เดย์ส) วันเกิด key (คีย์) keys (คีย์ส) กุญแจ way (เวย์) ways (เวย์ส) เส้นทาง chimney (ชิม-นีย์) chimneys (ชิม-นีย์ส) ปล่องไฟ สระในภาษาอังกฤษมีอยู่ 5 ตัว คือ A, E, I, O, U- ถ้าหน้า –y เป็นพยัญชนะ เราต้องตัด y เป็น i แล้วเติม –es ค่ะ เช่น
Singular Plural คำแปล enemy (เอเน-มิ่) enemies (เอเนมิ่ส์) ศัตรู berry (เบร์-ริ่) berries (เบร์ริ่ส์) ลูกเบอร์รี่ duty (ดิว-ทิ่) duties (ดิว-ทิ่ส์) หน้าที่ spy (สปาย) spies (สปายส์) สายลับ library (ไล-แบร-ริ่) libraries (ไล-แบร-ริ่ส์) ห้องสมุด 5. คำนามที่ลงท้ายด้วย –f หรือ –fe ให้เปลี่ยนตัว –f หรือ –fe เป็น –v แล้วเติม –es เช่น
Singular Plural คำแปล life (ไลฟ) lives (ลายฟส์) ชีวิต shelf (เชลฟ์) shelves (เชลฟส์) ชั้นวางของ loaf (โลฟ) loaves (โลฟส์) ก้อนขนมปัง thief (ธีฟ) thieves (ธีฟส์) โจร wife (ไวฟ) wives (ไวฟส์) ภรรยา 6. คำนามบางคำ เวลาทำให้เป็นพหูพจน์ เราต้องเปลี่ยนรูปคำนั้นทันที อันนี้เรามักจะพบเห็นกันอยู่บ่อยๆค่ะ เช่น
Singular Plural คำแปล child (ชายลด์) children (ชิล-เดริน) เด็ก tooth (ทูธ) teeth (ทีธ) ฟัน foot (ฟุท) feet (ฟีท) เท้า mouse (เมาส์) mice (ไมส์) หนู man (แมน) men (เม็น) ผู้ชาย 7. คำนามบางคำ สามารถใช้รูปเดิมได้ทั้งเวลาเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์
อันนี้ง่ายเลยค่ะ ไม่ต้องเปลี่ยนรูป หรือเติมอะไรเลย สบ๊าย สบาย ส่วนมากก็จะเป็นคำที่เกี่ยวกับสัตว์ทั้งนั้น มาดูกันว่ามีคำไหนบ้าง เช่น - fish ฟิช (ปลา)deer เดียร์ (กวาง)sheep ชีพ (แกะ)8. คำนามบางคำเป็นพหูพจน์อยู่เสมอง่ายๆคือต้องมี –s หรือ –es ต่อท้ายตลอด ไม่มีไม่ได้ เช่นscissors ซิส-เซอร์ส (กรรไกร)pants แพ้นท์ส (กางเกง)clothes โคลธส์ (เสื้อผ้า)jeans จีนส์ (กางเกงยีนส์)glasses แกลส-เซส (แว่นตา)noodles นู-เดิลส์ (บะหมี่)goods กู้ดส์ (สินค้า)
- Grammar 5 นาที : การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์
- ถ้าหน้า –y เป็นพยัญชนะ เราต้องตัด y เป็น i แล้วเติม –es ค่ะ เช่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น